กระเบื้องยางลายก้างปลา

ขั้นตอนปูกระเบื้องยางลายก้างปลา

การปูกระเบื้องยางลายก้างปลา เป็นงานที่ต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะทาง เพื่อให้ลวดลายออกมาสวยงามสมบูรณ์ แนะนำควรให้ช่างมืออาชีพที่มีประสบการณ์ทำการติดตั้งค่ะ

1. การเตรียมพื้นผิว

ก่อนเริ่มปูกระเบื้องยางลายก้างปลา พื้นผิวชั้นล่างต้องเรียบสม่ำเสมอ แข็งแรง และสะอาด ขจัดคราบสกปรกต่าง ๆ ออกให้หมด โดยเฉพาะฝุ่นผงและเศษผง กรณีพื้นมีความเอียงลาดเท ต้องทำการปรับระดับให้เรียบเสมอกันก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้พื้นดูเป็นคลื่น หรือมีน้ำขังหลังติดตั้ง

2. วางผังและวัดพื้นที่

การปูกระเบื้องยางลายก้างปลาจะต้องคำนวณและวัดพื้นที่ห้องอย่างละเอียด เพื่อกำหนดจุดเริ่มและทิศทางการปู จากนั้นใช้เทปกาวเพื่อขีดเส้นไขว้ครึ่งห้อง กำหนดจุดศูนย์กลางสำหรับอ้างอิงเวลาปู

แนะนำคำนวณให้ขนาดเศษกระเบื้องยางที่ด้านขอบห้องมีความสมมาตร โดยเฉพาะผนังตรงข้ามกัน แผ่นที่เหลือจากการตัดแต่งควรมีขนาดเท่า ๆ กัน ไม่เล็กหรือบางเกินไป เพราะอาจทำให้การติดตั้งภายหลังไม่แน่นหนา

3. ปูกระเบื้องยางลายก้างปลา

เริ่มวางแผ่นกระเบื้องยางแนวทแยงทำมุม 45 องศากับผนังห้อง ให้หัวด้านหนึ่งสัมผัสกับขอบผนัง และหันไปทางซ้ายหรือขวา จากนั้นปูต่อเนื่องเรื่อย ๆ สลับฟันปลาคล้ายก้างปลาจนเต็มพื้นที่

เมื่อปูกระเบื้องยางลายก้างปลาเสร็จ ให้ใช้ลูกกลิ้งลงน้ำหนักอัดทับอีกครั้งเพื่อไล่ฟองอากาศ โดยเฉพาะบริเวณที่แนวกระเบื้องยางบรรจบกัน ส่วนการตัดแต่งแถวสุดท้ายให้พอดีกับขนาดห้อง แนะนำใช้เครื่องมืออย่างคัตเตอร์และฉากตัด ให้ตัดได้แนวตรงที่สุด

4. เผื่อปริมาณกระเบื้องยางลายก้างปลา

เพราะการปูกระเบื้องยางลายก้างปลามีเศษที่ต้องตัดแต่งมากกว่าแบบธรรมดา ในการสั่งซื้อควรเผื่อเพิ่มไว้ 10-15% สำหรับพื้นที่ที่ต้องตัดเข้ารูปห้อง ป้องกันกระเบื้องยางไม่พอในภายหลัง เพราะสีอาจไม่ตรงกับล็อตเดิม

ข้อดีของกระเบื้องยางลายก้างปลา

• ลวดลายสวยคลาสสิก สร้างเอกลักษณ์ให้กับห้อง ดูหรูหรา ไม่ตกยุค และช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับอาคาร
• วัสดุ SPC มีคุณสมบัติกันน้ำ ทนรอยขีดข่วน ไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ฝุ่นหรือเป็นภูมิแพ้
• ดูแลรักษาง่าย กวาดและถูพื้นตามปกติ ไม่ต้องขัดหรือเคลือบเงาเหมือนพื้นไม้จริง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาระยะยาว
• อายุการใช้งานนานกว่าพื้นไม้จริง ทั่วไปประมาณ 5-15 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพของกระเบื้องยางและสภาพการใช้งาน

• สามารถปูได้แทบทุกห้องภายในอาคาร ไม่ว่าจะห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว หรือห้องรับประทานอาหาร

ข้อเสียของกระเบื้องยางลายก้างปลา

• การปูลายก้างปลามีความซับซ้อน ต้องใช้ช่างติดตั้งที่ชำนาญเฉพาะ
• ค่าใช้จ่ายปูกระเบื้องยางลายก้างปลาสูงกว่าการปูแบบธรรมดา เพราะต้องสั่งเผื่อมากกว่าปกติ และต้องคิดค่าแรงช่างเพิ่มเติม
• กระเบื้องยาง LVT แบบปูกาวอาจหดตัวเล็กน้อยหลังใช้งานไปสักระยะ ป้องกันได้หากติดตั้งอย่างถูกต้อง
• ซ่อมแซมค่อนข้างยาก ไม่สามารถเปลี่ยนเฉพาะจุดที่ชำรุดเสียหายได้ ต้องรื้อแผ่นบริเวณรอบข้างด้วย

• สีสันและลายจำกัดกว่ากระเบื้องยางแบบอื่น ๆ เพราะเป็นการผลิตเฉพาะสำหรับปูลายก้างปลา

การดูแลรักษากระเบื้องยางลายก้างปลา

• กวาดหรือดูดฝุ่นพื้นกระเบื้องยางลายก้างปลาเป็นประจำ เพื่อขจัดฝุ่นผง เศษทราย สิ่งสกปรกต่าง ๆ
• ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ หรือน้ำยาทำความสะอาดพื้นเอนกประสงค์ที่ฤทธิ์อ่อนโยน เช็ดถูพื้นอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
• กรณีคราบสกปรกฝังแน่น เช่น รอยขีดเขียน คราบกาแฟ แนะนำใช้แอลกอฮอล์ความเข้มข้นต่ำหรือน้ำยาทำความสะอาดชนิดอ่อนขจัดออก ไม่ใช้น้ำยาที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรงเช็ดถู
• สำหรับคราบหมึก คราบน้ำมัน สามารถใช้สำลีชุบน้ำมันสน (turpentine) หรือน้ำมันก๊าด (kerosene) เช็ดคราบออกเบา ๆ ได้ แต่ระวังไม่ถูแรงเกินจนทำให้สีของกระเบื้องยางลอก
• ติดแผ่นรองขาเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากผ้าสักหลาดหรือแผ่นพลาสติกใต้ขาโต๊ะ เก้าอี้ ตู้ต่าง ๆ ที่วางบนพื้นกระเบื้องยางลายก้างปลา
• บ้านที่มีสัตว์เลี้ยง ให้ตัดเล็บสุนัขและแมวสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เล็บสัตว์ขูดขีดกับพื้น

• ในการทำความสะอาดครั้งใหญ่ แนะนำเลือกใช้เครื่องขัดล้างพื้นและน้ำยาทำความสะอาดที่รับรองจากผู้ผลิตว่าเหมาะสมกับวัสดุกระเบื้องยางโดยเฉพาะ

ข้อระวังการใช้งานกระเบื้องยางก้างปลา

• ระวังอย่าให้พื้นกระเบื้องยางลายก้างปลาถูกของมีคม ขาเฟอร์นิเจอร์ หรือวัตถุแหลมคมอื่น ๆ ขูดขีด
• เลี่ยงการลากหรือเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์บนพื้นกระเบื้องยางโดยตรง แนะนำยกหรือใช้อุปกรณ์ช่วยเคลื่อนย้าย
• เมื่อพื้นโดนน้ำ ให้รีบเช็ดออก อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน เพื่อป้องกันความชื้นไหลลงไปสะสมใต้กระเบื้องยาง
• สังเกตพื้นกระเบื้องยางลายก้างปลาเสมอ หากพบว่ามีการโก่งตัวหรือมีน้ำขังแฉะ ให้รีบตรวจหาสาเหตุและแก้ไขทันที เพราะอาจเกิดจากปัญหาท่อรั่วหรือการรั่วซึมจากภายนอก