พื้นไวนิล หรือ กระเบื้องไวนิล (Vinyl Floor) คือ ชนิดนึงของกระเบื้องยางปูพื้น ที่ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ PVC (Polyvinyl chloride) โดยนำเม็ดพลาสติกมาอัดเป็นแผ่นสองชั้น เพื่อป้องกันการยืดหดตัว และพิมพ์ลวดลายไม้หรือหินบนผิวชั้นบนสุด พร้อมเคลือบสารป้องกันรังสี UV เพิ่มความทนทานต่อแสงแดดและรอยขีดข่วน มีลักษณะคล้ายคลึงกับพื้นไม้จริง ตอบโจทย์กว่าด้วยคุณสมบัติกันน้ำ ทนความชื้น และดูแลรักษาง่าย
ความหนา | หนา 3 มม. (ทากาว) | หนา 4 มม. (คลิ๊กล็อค) |
ขนาดสินค้า (กxย) | 152.4 x 1,219.2 มม. | 176.53 x 1,211.58 มม. |
ราคา กล่องละ | 1,271 | 1,153 |
จำนวนแผ่น | 18 แผ่น | 11 แผ่น |
ปูพื้นได้ | 3.3445 ตร.ม. | 2.3527 ตร.ม. |
ราคาเฉลี่ย ตร.ม. | 380 บาท/ตร.ม. | 490 บาท/ตร.ม. |
ราคาสินค้า + ช่างติดตั้ง พร้อมโฟมรองพื้น PE กับตัวจบเก็บขอบ | ||
ราคา รวมติดตั้ง | 450 บาท/ตร.ม. | 550 บาท/ตร.ม. |
Backing PVC Layer ชั้นล่างสุด ป้องกันวัสดุหลักจากความชื้นด้านล่าง มีความเหนียวและทนทานสูง
ราคาใกล้เคียงพื้นลามิเนต แต่คุณสมบัติตอบโจทย์กว่า ตกแต่งเข้าได้กับทุกสไตล์
ข้อดี/ข้อเสีย ของพื้นไวนิล มีอะไรบ้าง ?
แบ่งตามวิธีการติดตั้ง พื้นไวนิลจะมี 2 ประเภทหลัก ๆ คือ แบบทากาวและแบบคลิกล็อค แตกต่างกันดังนี้
คุณสมบัติ | พื้นไวนิลแบบทากาว | พื้นไวนิลแบบคลิ๊กล็อค |
การติดตั้ง | กาวยึดติดกับพื้น | สอดประกบ ล็อคเข้ากันแบบจิ๊กซอว์ |
ความเรียบของพื้น | ต้องเตรียมพื้นผิวให้เรียบ | ไม่ต้องเรียบมาก สามารถปูทับได้เลย |
ระยะเวลาติดตั้ง | ใช้เวลานานกว่า เพราะต้องทากาวให้ทั่ว รอแห้ง | ติดตั้งเร็ว ไม่ต้องเตรียมกาว |
การซ่อมแซม | เปลี่ยนยาก ต้องรื้อทั้งแผ่น | เปลี่ยนง่าย แกะเฉพาะจุดที่เสียหาย |
ความคงทน | ยึดติดแน่นหนากว่า | แกะออกได้ง่าย |
พื้นไวนิล คืออะไร [รู้ก่อนตัดสินใจ] ดีจริงไหม ?
เลือกพื้นไวนิลสำหรับในบ้าน แนะนำพิจารณาลักษณะการใช้งานของห้องที่จะปูเป็นหลัก โดยเฉพาะห้องที่มีความชื้น เช่น ห้องครัว ควรเลือกพื้นไวนิลที่มีระดับการทนน้ำสูง และมีฟิล์มป้องกันรอยขีดข่วนหนา ซึ่งพื้นไวนิลแบบคลิกล็อคจะตอบโจทย์กว่า แต่ถ้าห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องใต้หลังคา สามารถเลือกใช้พื้นไวนิลทากาวทั่วไปได้ค่ะ เน้นเรื่องลวดลายและสีสันให้ตรงกับความชอบ หรือเข้ากับเฟอร์นิเจอร์ในห้อง
สำหรับพื้นที่สำนักงาน โชว์รูม ล็อบบี้โรงแรม หรือพื้นที่ที่การสัญจรมาก แนะนำเป็น พื้นไวนิล Luxury Vinyl Tile (LVT) แบบคลิกล็อค หนา 4-5 มม. ค่ะ เพราะช่วยรับแรงได้ดีกว่าพื้นทั่วไป ผลิตจากวัสดุ 100% ไวนิล มีความยืดหยุ่นสูง ทนรอยรองเท้าและรอยลากได้ดี โดยพิจารณาเลือกตามงบประมาณ ความสวยงาม และสไตล์การตกแต่งได้ตามต้องการ
ก่อนปูพื้นไวนิล จะต้องทำความสะอาดพื้นเดิมให้เรียบร้อย ไม่พบคราบสกปรก ฝุ่น หรือเศษวัสดุก่อสร้าง รวมทั้งตรวจสอบพื้นผิวเดิมให้เรียบและได้ระดับ ไม่มีความชื้นหรือรอยแตกร้าว เพื่อให้พื้นไวนิลสามารถติดได้แน่นและเรียบสนิท
เริ่มวางแผ่นไวนิลตั้งแต่มุมห้อง กดแผ่นให้แนบสนิทกับพื้นและขอบแผ่นชิดกัน เว้นร่อง Expansion gap จากผนัง 1 เซนติเมตร โดยประมาณ เพื่อให้พื้นยืดตัวได้ พร้อมตัดแผ่นบริเวณประตู หน้าต่าง ด้วยมีดคัตเตอร์คม ๆ
ไม่ต้องทากาว เริ่มจากปูแผ่นโฟมรองพื้นเพื่อป้องกันความชื้น เสียงรบกวน และการยุบตัวของพื้นไวนิล
วางแถวแรกโดยหันด้านร่องของแผ่นไปทางผนัง แผ่นต่อไปจัดขอบให้ตรงกับแผ่นแรกแล้วสอด ล็อคด้าน Short Side ให้สนิท กดแผ่นให้แนบกับร่อง คลิกให้เข้าล็อค ติดตั้งแบบนี้เรื่อย ๆ จนเต็มทั้งห้อง อย่าลืมเผื่อร่อง Expansion gap กับผนัง 0.8-1 ซม. เผื่อให้พื้นขยายตัว กรณีแผ่นไม่พอดี สามารถตัดให้พอดีได้ ด้วยการวัด ตีเส้น ใช้สิ่วตัดร่องด้านหลังแผ่นตามแนวเส้น แล้วหักให้ขาด
ทำความสะอาดง่าย ใช้ไม้ถูพื้นหรือแปรงขนอ่อนปัดฝุ่น เพื่อขจัดเศษผง ทรายที่เกาะอยู่บนผิวหน้า หลังจากปัดฝุ่นแล้ว ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดทำความสะอาดทั่วห้อง ไม่แนะนำเช็ดพื้นไวนิลด้วยน้ำเปียกเกินไป เพราะอาจทำให้ตัวล็อคเสื่อมสภาพ หมั่นทำความสะอาดตามปกติสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
ไม่ควรใช้น้ำยาเคมีเข้มข้นหรือมีฤทธิ์กัดกร่อน เช่น น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาขัดพื้น เพราะอาจเกิดความเสียหายกับชั้นผิว UV ได้ กรณีต้องเช็ดออกทันที แนะนำรีบเช็ดน้ำซ้ำให้สะอาด และเวลาเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์หนัก ให้ยกไม่ควรลาก เพราะขาโต๊ะ ขาเก้าอี้ อาจทำให้พื้นเป็นรอย ป้องกันโดยวางแผ่นรองขาเฟอร์นิเจอร์จะช่วยลดรอยขูดขีดได้ค่ะ
ถ้ากระเบื้องไวนิลเกิดความเสียหาย การซ่อมแซมจะขึ้นอยู่กับประเภทพื้นไวนิลที่เลือกใช้ค่ะ ซึ่งแบบคลิกล็อคจะซ่อมเปลี่ยนเฉพาะจุดง่ายกว่า สามารถแกะเอาแผ่นที่เสียหายออก และนำแผ่นใหม่เปลี่ยนแทนได้ทันที ส่วนพื้นไวนิลแบบทากาวจะซ่อมแซมยากกว่า กรณีเสียหายมากอาจต้องรื้อและปูใหม่ทั้งหมด
พื้นไวนิลสามารถกันน้ำและทนความชื้นได้ดีค่ะ แต่ถ้ามีน้ำท่วมขังนาน ๆ น้ำอาจซึมลงไปตามรอยต่อได้ แนะนำว่า หากเปียกน้ำ ต้องรีบเช็ดให้แห้ง ไม่ปล่อยทิ้งไว้ และไม่ควรขังน้ำบนผิวหน้าเป็นเวลานาน
สามารถปูพื้นไวนิลได้แทบทุกห้องภายในบ้าน ไม่ว่าจะห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องครัว เพราะทนต่อความชื้นและทำความสะอาดได้ง่าย แต่ไม่แนะนำให้ปูบริเวณพื้นที่กลางแจ้ง ห้องน้ำ หรือพื้นที่ที่โดนแสงแดดโดยตรงค่ะ
ส่วนใหญ่มีอายุใช้งานประมาณ 5-15 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแลรักษา รวมถึงคุณภาพของพื้นไวนิลที่เลือกใช้ด้วย หากใช้ในพื้นที่ที่สัญจรน้อยและดูแลสม่ำเสมอ อายุการใช้งานก็จะนานขึ้นค่ะ
เลือกพื้นไวนิลแบบคลิ๊กล็อค และมีทักษะช่างพื้นฐาน ก็สามารถติดตั้งเองได้ ไม่ยาก แค่ศึกษาวิธีการติดตั้งและเตรียมเครื่องมือให้พร้อม แต่ถ้าเป็นแบบทากาวหรือมีพื้นที่ติดตั้งขนาดใหญ่ แนะนำให้เป็นหน้าที่ของช่างดำเนินการแทนค่ะ
ปัจจุบัน พื้นไวนิลได้รับการพัฒนาให้มีสารระเหยต่ำ (Low VOCs) และผ่านการทดสอบว่าไม่มีสารพิษปนเปื้อน ปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย แนะนำเป็นยี่ห้อพื้นไวนิล อย่าง UNIX, ROCOCO หรือ COTTO ค่ะ