รู้ก่อนซื้อ! พื้นลามิเนต คืออะไร ดีจริงไหม ?

ลามิเนต คือ

ลามิเนต (Laminate) คือ คำเรียกของกระบวนการผลิตวัสดุรูปแบบนึง ด้วยการนำแผ่นวัสดุที่เหมือนหรือต่างกันมาซ้อนทับกันหลายชั้น แล้วอัดด้วยความร้อนกับแรงดันสูง เกิดเป็นวัสดุชนิดใหม่ ไม่ว่าจะเป็น แผ่นลามิเนตปิดผิว หรือ พื้นลามิเนต เป็นต้น

พื้นลามิเนต คืออะไร

พื้นลามิเนต (Laminate Flooring) คือ วัสดุปูพื้นที่ทำจากเศษไม้บดละเอียดผสมกาวเรซิ่น อัดด้วยแรงดันและความร้อนสูง จากนั้นปิดผิวด้วยลายไม้ กับชั้นฟิล์มป้องกันผิวหน้าวัสดุ ช่วยเพิ่มความทนทานและความเงางาม เพราะมีลักษณะคล้ายไม้จริง แต่มีราคาถูกกว่ามาก เลยทำให้พื้นไม้ลามิเนตได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน

สิ่งที่ต้องพิจารณาควบคู่ไปด้วยคือ ข้อเสียของพื้นไม้ลามิเนต เพื่อให้เข้าใจทั้งข้อดีและข้อจำกัดก่อนตัดสินใจเลือกใช้ค่ะ

โครงสร้างของพื้นไม้ลามิเนต

1. Overlaying Film ชั้นฟิล์มเมลามีน ช่วยป้องกันรอยขีดข่วน และป้องกันสีซีดจางจากแสงแดด
2. Decorative Paper ชั้นลวดลายสีสัน เลียนแบบไม้จริง
3. HDF Board (High Density Fiberboard) ชั้นเศษไม้บดละเอียดผสมกาวเรซิ่น อัดด้วยแรงดันและความร้อนสูง
4. Balancing Film ชั้นป้องกันการบิดงอ และความชื้น

5. Click Lock System ใช้การติดตั้งแบบคลิ๊กล็อค รอยต่อเรียบสนิท ไม่ต้องใช้กาว

คุณสมบัติเด่น

• ราคาถูกกว่าพื้นไม้จริง
• ทนต่อแรงกระแทก และรอยขีดข่วน
• สีสันลายไม้ มีให้เลือกเยอะ เหมาะกับทุกสไตล์บ้าน
• ปูพื้นลามิเนตง่าย ทำด้วยตัวเองได้ ด้วยระบบ Click Lock

• อายุการใช้งานนาน 10-15 ปี *ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา

ค่า AC ของพื้นไม้ลามิเนต คืออะไร

AC (Abrasion Class) คือ มาตรฐานที่ใช้วัดความทนทานให้กับ พื้นไม้ลามิเนต ตามข้อกำหนดของประเทศยุโรป (EN13329) มีทั้งหมด 5 ระดับตั้งแต่ AC 1 ถึง 5 โดยถ้าค่ายิ่งสูงขึ้น ก็จะหมายถึงความทนทานที่มากขึ้นตามไปด้วยครับ

• AC 1 : 21 คือระดับความทนทานต่ำสุด เหมาะสำหรับพื้นบริเวณที่ไม่มีการสัญจรบ่อย เช่น ห้องรับแขก หรือห้องนอน
• AC 2 : 22 คือระดับที่ความทนทานจะสูงขึ้นเล็กน้อย เหมาะกับบริเวณพื้นทั่วไป เช่น ห้องนั่งเล่น หรือห้องรับประทานอาหาร
• AC 3 : 23 และ AC 3 : 31 คือระดับที่นิยมใช้ในปัจจุบัน เพราะมีความทนทานค่อนข้างสูง เหมาะกับพื้นทุกบริเวณบ้าน รวมถึงการใช้ปูบันได
• AC 4 : 32 คือระดับที่ความทนทานสูง เหมาะกับพื้นที่ใช้เชิงพาณิชย์ หรือมีการสัญจรบ่อย เช่น สำนักงาน ร้านเสริมสวย หรือคาเฟ่ เป็นต้น

• AC 5 : 33 คือระดับที่ความทนทานสูงที่สุด ทำให้มีราคาค่อนข้างสูง จะนิยมใช้กับ โรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า หรือฟิตเนส เป็นต้น

ถึงแม้ว่าค่า AC จะยิ่งสูงยิ่งดี แต่ราคาสินค้าของพื้นไม้ลามิเนต ก็จะยิ่งสูงตามขึ้นไปด้วยครับ ถามว่า … หากคุณใช้ปูพื้นบ้านทั่วไป จะเลือกใช้ค่าความทนทานระดับไหน ? คำตอบคือ ค่า AC 3 : 23 หรือ AC 3 : 31 ก็เพียงพอต่อการใช้งานให้นานถึง 10-15 ปีแล้วครับ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของคุณด้วยนั่นเอง

นอกจากค่า AC อีกปัจจัยที่ต้องพิจารณาคือ ความหนาลามิเนต ซึ่งมีผลต่อความแข็งแรง ทนทาน และความรู้สึกในการสัมผัสค่ะ

การดูแลรักษาพื้นลามิเนต

พื้นลามิเนต คือ วัสดุปูพื้นที่ต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งานให้อยู่กับเรานานที่สุด เพราะข้อเสียของพื้นไม้ลามิเนตทำให้การทำความสะอาดพื้น จะมีข้อควรระวัง และวิธีทำความสะอาดอย่างถูกต้อง ดังนี้

• ห้ามใช้แปรงขัดพื้น เพราะอาจทำให้ผิวหน้าเกิดรอยขีดข่วน แต่ให้ใช้ ผ้าแห้งหมาด ถูทำความสะอาดเป็นประจำ
• ห้ามใช้น้ำยาถูพื้น หรือสารเคมี ที่เป็นกรดหรือมีส่วนผสมของน้ำยาขัดเงา แต่ให้ใช้น้ำอุ่นผสมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้น และบิดผ้าให้หมาดเกือบแห้ง
• อย่าปล่อยให้พื้นเปียกน้ำนานเกินไป เพราะอาจทำให้พื้นลามิเนตบวม และเสียหายได้

• ระมัดระวังสภาพอากาศชื้น แนะนำ ให้คุณเปิดหน้าต่างบ้าง เพื่อระบายความชื้นภายในห้อง

สรุป

สรุปแล้ว พื้นลามิเนต คือ วัสดุปูพื้นชนิดนึง ที่ทำจากไม้อัด HDF ปิดทับด้วยลายไม้เสมือนจริง และเคลือบด้วยสารป้องกันผิวหน้า มีคุณสมบัติเด่นคือ ความทนทานสูงหลายระดับตั้งแต่ AC 1-5 สีสันลายไม้ที่หลากหลาย และราคาที่ถูกว่าไม้จริง แต่ … พื้นไม้ลามิเนตก็มีข้อจำกัด เกี่ยวกับการดูแลรักษาว่า ห้ามใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เป็นกรด หรือมีส่วนผสมของน้ำยาขัดเงา แต่ให้ใช้น้ำอุ่นผสมผลิตภัณฑ์ถูพื้นทั่วไป และบิดให้แห้งหมาดก่อนใช้งานครับ

สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจเลือกระหว่างพื้นลามิเนตกับวัสดุอื่น ๆ สามารถอ่านต่อได้ที่ เปรียบเทียบ พื้น SPC กับ พื้นลามิเนต เลือกแบบไหนดี ?