แก้ปัญหา "รอยต่อลามิเนต" พื้นแยก พื้นห่าง ทำอย่างไร?

S.J.Sourcing สรุปให้

• รอยต่อลามิเนตเป็นปัญหาที่พบบ่อยในบ้านที่ใช้พื้นลามิเนต เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การติดตั้งไม่ถูกวิธี การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้น
• พื้นลามิเนตห่าง หรือพื้นลามิเนตแยกขนาดเล็ก สามารถแก้ไขได้ด้วยพุตตี้ไม้หรือกาวไม้ ส่วนรอยต่อขนาดใหญ่อาจต้องถอดและติดตั้งใหม่
• การป้องกันปัญหารอยต่อลามิเนตเริ่มตั้งแต่การเลือกซื้อพื้นลามิเนตคุณภาพดี การติดตั้งถูกวิธี และการดูแลรักษาสม่ำเสมอ

• ควรรักษาความชื้นในห้องให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม (40-60%) และหลีกเลี่ยงการทำความสะอาดด้วยน้ำมากเกิน เพื่อป้องกันพื้นลามิเนตแยก

พื้นลามิเนต กำลังได้รับความนิยมสำหรับการตกแต่งบ้าน เพราะมีราคาไม่แพง รูปแบบสวย และติดตั้งได้ง่าย แต่หลายคนก็ประสบปัญหา "รอยต่อลามิเนต" ที่แยกหรือห่างออกจากกัน ทำให้พื้นดูไม่เรียบร้อย บทความนี้จะแนะนำสาเหตุของปัญหารอยต่อลามิเนต วิธีการแก้ และวิธีป้องกันปัญหาค่ะ

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• S.J.Sourcing สรุปให้
• สาเหตุของปัญหารอยต่อลามิเนต
• วิธีแก้ปัญหารอยต่อลามิเนต
• วิธีป้องกันปัญหารอยต่อลามิเนต
• สรุป
  

สาเหตุของปัญหารอยต่อลามิเนต

ก่อนจะแก้ไขปัญหารอยต่อลามิเนต เราควรทำความเข้าใจถึงสาเหตุของปัญหาก่อน เพื่อให้สามารถแก้ไขได้ตรงจุดและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำในอนาคตค่ะ ซึ่งเกิดได้จากหลายปัจจัย สาเหตุหลัก ๆ ของปัญหารอยต่อลามิเนต คือ

1. การติดตั้งที่ไม่ถูกต้อง

การติดตั้งพื้นลามิเนตที่ไม่ถูกต้อง เป็นสาเหตุหลักของปัญหารอยต่อ ดังนี้

• ไม่เว้นระยะห่างที่เหมาะสมกับผนัง พื้นลามิเนตต้องการพื้นที่สำหรับการขยายตัวเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง ทั่วไปควรเว้นระยะห่างจากผนัง 8-10 มิลลิเมตร ถ้าไม่เว้นระยะห่าง เมื่อพื้นขยายตัวจะทำให้แผ่นลามิเนตดันกันจนโก่งงอหรือรอยต่อลามิเนตแยกออกจากกัน
• การปูพื้นบนพื้นที่ไม่เรียบเสมอกัน ถ้าพื้นรองไม่เรียบ จะทำให้พื้นลามิเนตไม่สามารถล็อคเข้ากันได้สนิท ก่อให้เกิดช่องว่างระหว่างแผ่น และเมื่อมีการเดินบนพื้นที่ไม่เรียบ แรงกดจะไม่กระจายสม่ำเสมอ ทำให้ล็อคระหว่างแผ่นหลุดออกจากกันได้ง่าย ส่งผลให้เกิดพื้นลามิเนตห่าง

• การใช้กาวหรือวิธีการติดตั้งที่ไม่เหมาะกับชนิดของพื้นลามิเนต พื้นลามิเนตแต่ละประเภทมีวิธีการติดตั้งแตกต่างกัน บางรุ่นเป็นระบบล็อค บางรุ่นต้องใช้กาว ถ้าใช้วิธีการติดตั้งไม่ถูกต้องตามคำแนะนำของผู้ผลิต ก็อาจทำให้รอยต่อลามิเนตไม่แน่นและหลุดออกจากกันได้หลังใช้ไปซักระยะ

2. การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้น

ไม้ลามิเนตเป็นวัสดุที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะอุณหภูมิและความชื้น

• การขยายและหดตัวของไม้ลามิเนตตามสภาพอากาศ เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น พื้นลามิเนตจะขยายตัว และเมื่ออุณหภูมิลดลง พื้นจะหดตัว การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็วหรือบ่อยครั้งจะทำให้พื้นขยายและหดตัวซ้ำ ๆ จนทำให้รอยต่อลามิเนตหลวมและพื้นลามิเนตแยกออกจากกัน

• ความชื้นสูงทำให้พื้นลามิเนตบวม เมื่อพื้นสัมผัสกับความชื้นมากเกิน วัสดุจะดูดซับความชื้นและบวม ทำให้ขอบของแผ่นลามิเนตโก่งขึ้น หรือเรียกว่า "ขอบโก่ง" (Peaking) เมื่อเกิดอาการนี้ ส่วนมากจะแก้ไขได้ยากและจำเป็นต้องเปลี่ยนแผ่นใหม่ เพราะรอยต่อลามิเนตเสียหาย

3. คุณภาพของวัสดุ

คุณภาพของวัสดุมีผลโดยตรงต่อความทนทานและอายุการใช้งาน พื้นลามิเนตคุณภาพต่ำจะมีระบบล็อคที่ไม่แข็งแรง หรือวัสดุที่ไม่ทนต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิกับความชื้น ทำให้เกิดปัญหารอยต่อลามิเนตง่ายกว่า นอกจากนี้ พื้นลามิเนตที่มีความหนาน้อยกว่า 8 มิลลิเมตร ส่วนใหญ่ก็จะมีความแข็งแรงน้อยและเกิดปัญหาพื้นลามิเนตแยกได้ง่ายกว่าแผ่นที่หนากว่า

4. การใช้งานและการดูแลรักษาที่ไม่เหมาะสม

วิธีการใช้งานและการดูแลรักษาพื้นลามิเนตมีผลต่ออายุการใช้งาน และความแข็งแรงของรอยต่อลามิเนตค่ะ

• การทำความสะอาดด้วยน้ำมากเกิน การใช้น้ำมากเกินในการทำความสะอาดจะทำให้น้ำแทรกซึมเข้าไปในรอยต่อ ทำให้พื้นบวมและพื้นลามิเนตห่างออกจากกัน โดยเฉพาะพื้นลามิเนตที่ไม่มีระบบกันน้ำ

• การลากเฟอร์นิเจอร์หนัก ๆ โดยไม่ป้องกัน การลากเฟอร์นิเจอร์หนัก ๆ บนพื้นลามิเนตจะทำให้เกิดแรงเสียดทานและแรงกด ซึ่งสามารถทำให้พื้นเคลื่อนและรอยต่อลามิเนตแยกออกจากกัน รวมถึงการวางเฟอร์นิเจอร์หนัก ๆ โดยไม่กระจายน้ำหนักอย่างเหมาะสม ก็อาจทำให้พื้นกดทับไม่เท่ากันและเกิดพื้นลามิเนตห่างได้

5 ข้อเสียของพื้นลามิเนต ที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้

วิธีแก้ปัญหารอยต่อลามิเนต

เมื่อเกิดปัญหารอยต่อลามิเนต เราสามารถแก้ไขได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับขนาดและความรุนแรงของปัญหา โดยแบ่งเป็นวิธีการแก้ไขรอยต่อขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ตามนี้

การแก้ไขรอยต่อขนาดเล็ก

สำหรับรอยต่อลามิเนตขนาดเล็ก หรือเพิ่งเริ่มเกิดปัญหาพื้นลามิเนตห่าง สามารถใช้วิธีการแก้ไขแบบง่าย ๆ ได้ดังนี้

1. ใช้พุตตี้ไม้หรือซิลิโคนสำหรับไม้ สำหรับรอยต่อลามิเนตขนาดเล็กไม่เกิน 2-3 มิลลิเมตร สามารถใช้พุตตี้ไม้หรือซิลิโคนสำหรับไม้อุดรอยต่อได้ โดยเลือกสีที่ใกล้เคียงกับสีของพื้นลามิเนต วิธีการคือ ทำความสะอาดรอยต่อให้ไม่มีฝุ่นและสิ่งสกปรก จากนั้นบีบพุตตี้หรือซิลิโคนลงไปในรอยต่อ ใช้เกรียงยางปาดให้เรียบ และปล่อยให้แห้งตามระยะเวลาที่กำหนดบนบรรจุภัณฑ์
2. ใช้กาวสำหรับไม้ กรณีรอยต่อลามิเนตยังไม่ห่างมาก แต่เริ่มมีการขยับหรือโยกได้ ให้ใช้กาวสำหรับไม้ที่มีคุณสมบัติกันน้ำ (Water-resistant) ฉีดลงในรอยต่อ จากนั้นใช้ไม้หนีบหรือวางของหนักทับไว้ประมาณ 24 ชั่วโมง ให้กาวแห้งสนิท วิธีนี้เหมาะสำหรับการแก้ไขพื้นลามิเนตห่างในระยะเริ่มต้น

3. การปรับสภาพอุณหภูมิและความชื้น ถ้าพื้นลามิเนตแยกเพราะการหดตัวในฤดูหนาวหรือช่วงที่อากาศแห้ง การปรับสภาพอากาศในห้องให้มีความชื้นที่เหมาะสม (ประมาณ 40-60%) ก็สามารถช่วยให้พื้นขยายตัวกลับมาชิดกันได้ แต่วิธีนี้ต้องใช้เวลาและไม่ได้ผลในทุกกรณี

การแก้ไขรอยต่อขนาดใหญ่/พื้นลามิเนตแยกเป็นแผ่น

สำหรับรอยต่อลามิเนตขนาดใหญ่ หรือพื้นลามิเนตแยกเป็นแผ่นอย่างชัดเจน จำเป็นต้องใช้วิธีการแก้ไขที่มากขึ้น ดังนี้

1. การถอดและติดตั้งใหม่ เป็นวิธีที่แก้ไขได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพที่สุด เริ่มจากการถอดบัวพื้นออก และค่อย ๆ ถอดแผ่นลามิเนตจากขอบห้องจนถึงบริเวณที่มีปัญหา ตรวจสอบระบบล็อคว่ายังใช้งานได้ดีหรือไม่ ถ้าชำรุดก็ต้องเปลี่ยนแผ่นใหม่ ตรวจสอบพื้นรองว่าเรียบสม่ำเสมอดีหรือไม่ หากไม่เรียบให้ปรับแต่งก่อน จากนั้นติดตั้งพื้นลามิเนตใหม่
2. การใช้กาวร่วมกับสกรูยึดพื้น สำหรับพื้นที่มีปัญหาเฉพาะจุดและไม่สามารถถอดแผ่นลามิเนตได้ อาจต้องใช้วิธีเจาะรูและใช้สกรูยึดพื้นลามิเนตกับพื้นรอง โดยเจาะรูด้วยดอกสว่านขนาดเล็กกว่าสกรูเล็กน้อย ใส่กาวลงในรู แล้วขันสกรูให้จมลงในพื้นเล็กน้อย จากนั้นใช้พุตตี้ไม้หรือขี้ผึ้งสีเดียวกับพื้นปิดหัวสกรู วิธีนี้จะทำให้พื้นเสียความสวยงามไปบ้าง แต่ช่วยแก้ปัญหารอยต่อลามิเนตได้ระดับหนึ่ง

3. การใช้เครื่องมือพิเศษสำหรับดันพื้นลามิเนต ในตลาดมีเครื่องมือพิเศษสำหรับซ่อมพื้นลามิเนต เช่น "Laminate Floor Clamp" หรือ "Flooring Jack" ที่ช่วยดันแผ่นลามิเนตให้ชิดกัน แล้วใช้กาวไม้หรือซิลิโคนอุดรอยต่อ ก่อนปล่อยให้แห้ง วิธีนี้เหมาะสำหรับพื้นที่มีปัญหาพื้นลามิเนตห่างหลายจุดและไม่ต้องการถอดพื้นทั้งหมด
   

วิธีป้องกันปัญหารอยต่อลามิเนต

การป้องกันปัญหาสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของพื้นลามิเนตได้ เริ่มตั้งแต่การเลือกซื้อ การติดตั้ง จนถึงการดูแลรักษาแบบถูกวิธี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาพื้นลามิเนตแยกในอนาคต

การเลือกซื้อพื้นลามิเนต

การเลือกซื้อพื้นลามิเนตคุณภาพดีจะช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหารอยต่อลามิเนตได้มาก โดยมีข้อควรพิจารณาดังนี้

1. เลือกความหนาที่เหมาะสม พื้นลามิเนตที่มีความหนาตั้งแต่ 8 มิลลิเมตรขึ้นไปจะมีความแข็งแรงมากกว่าและทนต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิกับความชื้นได้ดีกว่า ช่วยลดโอกาสการเกิดพื้นลามิเนตห่าง
2. พิจารณาระบบล็อค ระบบล็อคของพื้นลามิเนตมีหลายแบบ ควรเลือกระบบล็อคที่แข็งแรงและติดตั้งง่าย เช่น ระบบ Click-Lock หรือ Angle-Tap เพราะทนทานและมีโอกาสเกิดปัญหารอยต่อลามิเนตน้อยกว่า
3. เลือกพื้นลามิเนตกันน้ำหรือทนความชื้น ถ้าติดตั้งในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องครัว หรือห้องน้ำ ควรเลือกพื้นลามิเนตที่มีคุณสมบัติกันน้ำหรือทนความชื้น ช่วยลดปัญหาพื้นลามิเนตแยกที่เกิดจากความชื้นได้

4. ซื้อจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและมีการรับประกัน แบรนด์ที่มีชื่อเสียงจะมีการรับประกันคุณภาพพื้น และมีบริการหลังการขาย กรณีเกิดปัญหารอยต่อลามิเนตจะได้รับความช่วยเหลือได้ทันที

การติดตั้งที่ถูกต้อง

การติดตั้งพื้นลามิเนตถูกวิธีสามารถช่วยป้องกันปัญหารอยต่อลามิเนตได้

1. เตรียมพื้นรองให้เรียบสม่ำเสมอ ก่อนติดตั้งพื้นลามิเนต ต้องแน่ใจว่าพื้นรองเรียบและสะอาด ถ้ามีรอยนูนหรือหลุม ให้ปรับแต่งด้วยปูนปรับระดับหรือขัดพื้นให้เรียบก่อน เพื่อป้องกันปัญหาพื้นลามิเนตห่างในอนาคต
2. ปูแผ่นรองพื้น (Underlayment) แผ่นรองพื้นจะช่วยรองรับแรงกระแทก ช่วยเก็บเสียง และป้องกันความชื้นจากพื้นรอง ควรเลือกแผ่นรองพื้นที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับชนิดของพื้นลามิเนต เพื่อลดโอกาสการเกิดรอยต่อลามิเนต - โฟมรองพื้น (PE , IXPE) มีประโยชน์อะไรบ้าง ?
3. เว้นระยะห่างจากผนังและสิ่งกีดขวาง เว้นระยะห่างจากผนังประมาณ 8-10 มิลลิเมตร เพื่อให้พื้นลามิเนตมีพื้นที่ในการขยายตัวเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง ป้องกันการเกิดพื้นลามิเนตแยกจากการขยายตัว
4. ติดตั้งตามคำแนะนำของผู้ผลิต ผู้ผลิตแต่ละรายจะมีวิธีการติดตั้งแตกต่างกัน ควรศึกษาและปฏิบัติตามคู่มือการติดตั้งอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันปัญหารอยต่อลามิเนตในระยะยาว

5. ใช้อุปกรณ์ช่วยในการติดตั้ง เช่น ชุดติดตั้งพื้นลามิเนต ประกอบด้วยไม้ตก (Tapping Block) และคัทเตอร์ ที่จะช่วยให้การติดตั้งทำได้ถูกต้องและลดโอกาสการเกิดความเสียหายกับระบบล็อคของพื้นลามิเนต

ปูพื้นลามิเนต ทำอย่างไร? ฉบับปูด้วยตัวเอง ทำตามได้เลย

การดูแลรักษาที่เหมาะสม

การดูแลรักษาพื้นลามิเนตถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานและป้องกันปัญหารอยต่อลามิเนตได้

1. ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในห้อง รักษาอุณหภูมิในห้องให้คงที่ และความชื้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมประมาณ 40-60% โดยอาจใช้เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำความชื้น หรือเครื่องลดความชื้น ช่วยในการปรับสภาพอากาศ เพื่อป้องกันการเกิดพื้นลามิเนตแยกจากการหดตัวหรือขยายตัวมากเกิน
2. ทำความสะอาดถูกวิธี ใช้ไม้กวาด เครื่องดูดฝุ่น หรือผ้าชุบน้ำบิดหมาด ๆ ในการทำความสะอาด เลี่ยงการใช้น้ำมากเกินหรือน้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์รุนแรง เพื่อป้องกันความชื้นแทรกซึมเข้าสู่รอยต่อลามิเนต
3. ใช้แผ่นรองขาเฟอร์นิเจอร์ เพื่อป้องกันการขูดขีดและการกดทับพื้นไม่เท่ากัน ควรติดแผ่นรองขาเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุนุ่ม เช่น ยาง หรือสักหลาด ช่วยลดโอกาสการเกิดพื้นลามิเนตห่างจากการเคลื่อนที่ของเฟอร์นิเจอร์
4. หลีกเลี่ยงการลากเฟอร์นิเจอร์ เมื่อต้องการเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ควรยกแทนการลาก หรือใช้อุปกรณ์ช่วยเคลื่อนย้าย เช่น ผ้ายางรองใต้ขาเฟอร์นิเจอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้รอยต่อลามิเนตเสียหาย

5. ซ่อมแซมทันทีเมื่อพบปัญหา ถ้าพบว่าพื้นลามิเนตเริ่มมีปัญหา เช่น รอยต่อลามิเนตเริ่มห่าง หรือพื้นเริ่มโก่ง ควรซ่อมแซมทันที ไม่ปล่อยทิ้งไว้จนปัญหาลุกลามใหญ่โต และกลายเป็นพื้นลามิเนตแยกที่ซ่อมแซมได้ยาก

สรุป

ปัญหา “รอยต่อลามิเนต” เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในการใช้งานพื้นลามิเนต แต่สามารถแก้ไขและป้องกันได้ ถ้าเข้าใจถึงสาเหตุและวิธีการจัดการอย่างถูกต้อง สาเหตุหลักของปัญหามาจากการติดตั้งที่ไม่ถูกวิธี การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ/ความชื้น คุณภาพของวัสดุ และการใช้งานที่ไม่เหมาะสม

การแก้ปัญหารอยต่อลามิเนต สามารถทำได้ทั้งการซ่อมแซมรอยต่อขนาดเล็กด้วยพุตตี้หรือกาวไม้ และการซ่อมแซมพื้นลามิเนตแยกขนาดใหญ่ด้วยการถอดและติดตั้งใหม่ ส่วนการป้องกันปัญหาเริ่มตั้งแต่การเลือกซื้อพื้นลามิเนตคุณภาพดี การติดตั้งอย่างถูกวิธี และการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมค่ะ