เปรียบเทียบ พื้น SPC กับ พื้นลามิเนต เลือกแบบไหนดี ?

88 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เปรียบเทียบ พื้น SPC กับ พื้นลามิเนต

S.J.Sourcing สรุปให้

  • พื้น SPC คือวัสดุปูพื้นรุ่นใหม่ที่มีแกนกลางเป็นคอมโพสิตพลาสติกแข็ง ทนน้ำ ทนความชื้น และทนแรงกระแทกได้สูง
  • พื้นลามิเนต คือวัสดุปูพื้นที่มีแกนกลางเป็นไฟเบอร์บอร์ด ราคาถูกกว่า มีลายหลากหลาย แต่ไม่ทนน้ำเท่าพื้น SPC
  • พื้น SPC เหมาะกับพื้นที่เปียกชื้น เช่น ห้องครัว หรือพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก
  • พื้นลามิเนตเหมาะกับพื้นที่แห้ง เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ที่ต้องการความสวยงามในราคาที่จับต้องได้
  • พื้น SPC มีอายุการใช้งานนานกว่า แต่ราคาสูงกว่าพื้นลามิเนต

พื้น SPC กับ พื้นลามิเนต ได้รับความนิยมจากเจ้าของบ้านที่ต้องการความสวยงามแบบพื้นไม้ แต่ต้องการความคุ้มค่าและการดูแลรักษาที่ง่ายกว่า บทความนี้จะเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง พื้น SPC กับพื้นลามิเนต ในด้านต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจเลือกวัสดุปูพื้นที่เหมาะกับความต้องการของคุณได้ค่ะ

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

พื้น SPC กับ พื้นลามิเนต คืออะไร?

ก่อนเปรียบเทียบรายละเอียดความแตกต่าง เรามาทำความรู้จัก พื้น SPC กับ พื้นลามิเนต กันก่อนค่ะ เพื่อให้เห็นภาพรวมและโครงสร้างพื้นฐานของวัสดุแต่ละชนิด

พื้น SPC

พื้น SPC ย่อมาจาก Stone Plastic Composite หรือ Stone Polymer Composite เป็นกระเบื้องยางปูพื้นรุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขข้อจำกัดของพื้นลามิเนตแบบดั้งเดิม โครงสร้างประกอบด้วย 4 ชั้นหลัก คือ

  • ชั้นเคลือบผิว (Wear Layer) ชั้นบนสุดที่ทำหน้าที่ป้องกันรอยขีดข่วนและการสึกหรอ เคลือบด้วยสารโพลียูรีเทนหรืออะคริลิก
  • ชั้นลายพิมพ์ (Decorative Layer) ชั้นแสดงลวดลาย เช่น ลายไม้ ลายหิน พิมพ์ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
  • ชั้นแกนกลาง (Core Layer) ชั้นหลักที่ทำจากส่วนผสมของผงหินปูนกับพลาสติก PVC ทำให้แข็งแรงและกันน้ำได้ดี
  • ชั้นรองพื้น (Base Layer) ชั้นล่างสุดที่ทำจากโฟมหรือวัสดุกันกระแทกเพื่อเพิ่มความสบายเท้าและลดเสียงเวลาเดิน

จุดเด่นของพื้น SPC คือความแข็งแรงทนทาน กันน้ำได้ 100% และมีความเสถียรด้านขนาดสูง ไม่ขยายหรือหดตัวเมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลง

พื้นลามิเนต

พื้นลามิเนต (Laminate Flooring) เป็นวัสดุปูพื้นที่มีมานานกว่า เป็นที่รู้จักเพราะราคาไม่สูง โครงสร้างประกอบด้วย 4 ชั้นหลัก คือ

  • ชั้นเคลือบผิว (Wear Layer) ชั้นป้องกันรอยขีดข่วนที่ทำจากเมลามีนหรืออะคริลิก
  • ชั้นลายพิมพ์ (Decorative Layer) ชั้นกระดาษพิมพ์ลายที่ให้ความสวยงาม
  • ชั้นแกนกลาง (Core Layer) ชั้นหลักที่ทำจาก High-Density Fiberboard (HDF) วัสดุที่ทำจากเส้นใยไม้อัดแน่น
  • ชั้นรองพื้น (Backing Layer) ชั้นล่างสุดที่ช่วยเสริมความแข็งแรงและป้องกันความชื้นจากด้านล่าง

ข้อสังเกตคือ แกนกลางของพื้นลามิเนตทำจากวัสดุที่ใช้ไม้เป็นส่วนประกอบ มีข้อดีเรื่องความนุ่มนวลในการเดิน แต่มีข้อจำกัดเรื่องความทนทานต่อน้ำและความชื้น

 

ความต่างด้านคุณสมบัติระหว่าง พื้น SPC กับ พื้นลามิเนต

การเปรียบเทียบคุณสมบัติของ พื้น SPC กับ พื้นลามิเนต จะช่วยให้เข้าใจข้อดีข้อเสียและเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งานได้ดีขึ้น

ความทนทานต่อรอยขีดข่วน

พื้นทั้งสองประเภทมีความทนทานต่อรอยขีดข่วนที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับคุณภาพของชั้นเคลือบผิว

พื้น SPCพื้นลามิเนต
  • มีชั้นเคลือบผิวหนากว่า ทั่วไปอยู่ที่ 0.3-0.7 มิลลิเมตร
  • มีความทนทานสูงต่อการขูดขีดจากเฟอร์นิเจอร์หนัก สัตว์เลี้ยง หรือรองเท้าส้นสูง
  • สามารถเลือกรุ่นที่มีเทคโนโลยีเคลือบผิวพิเศษที่ทนทานขึ้นได้ เช่น เทคโนโลยี Ceramic Bead ที่เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพื้นผิว
  • ชั้นเคลือบผิวบางกว่า ทั่วไปอยู่ที่ 0.1-0.5 มิลลิเมตร
  • มีความทนทานปานกลางต่อการขูดขีด แต่อาจเกิดรอยได้ง่ายกว่าในกรณีที่เลือกรุ่นราคาถูก
  • รุ่นคุณภาพสูงมีเทคโนโลยีป้องกันรอยขีดข่วน แต่ราคาจะสูงขึ้นจนใกล้เคียงกับราคาพื้น SPC

จากการเปรียบเทียบ พื้น SPC กับพื้นลามิเนต จะเห็นว่าพื้น SPC มีความทนทานต่อรอยขีดข่วนมากกว่าในระดับราคาเดียวกัน

อ่านเพิ่มเติม — 5 ข้อเสียของพื้นลามิเนต ที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้

การทนน้ำและความชื้น

หนึ่งในความแตกต่างที่ชัดที่สุดระหว่างพื้น SPC กับพื้นลามิเนต คือความสามารถในการทนน้ำและความชื้น

พื้น SPCพื้นลามิเนต
  • ทนน้ำได้ 100% ด้วยแกนกลางที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์และพลาสติก
  • ไม่บวมน้ำหรือโก่งงอ เมื่อสัมผัสน้ำ/ความชื้นเป็นเวลานาน
  • เหมาะสำหรับพื้นที่เปียกชื้น เช่น ห้องครัว หรือชั้นใต้ดิน
  • ทนต่อการรั่วซึมและหกของของเหลว
  • ต้านทานน้ำได้แค่ระยะสั้น ๆ (ประมาณ 24-48 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับคุณภาพ)
  • แกนกลางที่ทำจาก HDF จะดูดซับความชื้นและบวมน้ำเมื่อสัมผัสกับน้ำเป็นเวลานาน
  • ไม่เหมาะกับพื้นที่เปียกชื้นหรือที่มีโอกาสน้ำหกบ่อย
  • พื้นลามิเนตรุ่นใหม่บางรุ่นมีการเคลือบกันน้ำพิเศษ (water-resistant) แต่ไม่สามารถกันน้ำได้สมบูรณ์เหมือนพื้น SPC

ความสามารถในการทนน้ำของพื้น SPC เป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่าพื้นลามิเนต

ความทนทานต่อแรงกระแทก

ความทนทานต่อแรงกระแทกก็เป็นปัจจัยในการเลือกระหว่างพื้น SPC กับพื้นลามิเนต

พื้น SPCพื้นลามิเนต
  • มีความแข็งและหนาแน่นสูง ทนต่อแรงกระแทกได้ดี
  • ไม่เกิดรอยบุ๋มง่ายเมื่อวางเฟอร์นิเจอร์หนักหรือทำของหล่นใส่
  • เหมาะกับพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก เช่น ทางเดินหลัก หรือพื้นที่ธุรกิจ
  • มีความเสถียรด้านขนาดที่ดีกว่า ไม่ยืดหรือหดตัวตามอุณหภูมิ
  • มีความแข็งน้อยกว่า สามารถเกิดรอยบุ๋มได้เมื่อรับแรงกดมาก ๆ
  • เกิดความเสียหายได้ง่ายเมื่อของหนักตกกระแทก
  • รุ่นคุณภาพสูงจะมีความหนาและความหนาแน่นมากขึ้น เพิ่มความทนทานต่อแรงกระแทก
  • มีการยืดและหดตัวตามการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิกับความชื้น

เมื่อเปรียบเทียบพื้น SPC กับพื้นลามิเนต จะพบว่าพื้น SPC มีความทนทานต่อแรงกระแทกมากกว่า ทำให้เหมาะกับบ้านที่มีเด็กเล็ก สัตว์เลี้ยง หรือพื้นที่ที่มีการสัญจรหนาแน่น

ความรู้สึกในการสัมผัส

ความรู้สึกเมื่อเดินบนพื้น เป็นปัจจัยด้านความสบายที่หลายคนมองข้าม

พื้น SPCพื้นลามิเนต
  • มีความแข็งและให้ความรู้สึกหนักแน่นเมื่อเดิน
  • รู้สึกเย็นกว่าเมื่อสัมผัส เพราะวัสดุหลักเป็นพลาสติก
  • รุ่นใหม่มีชั้นโฟมรองพื้นเพื่อเพิ่มความนุ่มสบายและลดเสียงเวลาเดิน
  • เหมาะกับการติดตั้งระบบทำความร้อนใต้พื้น (underfloor heating)
  • ให้ความรู้สึกนุ่มและอุ่นกว่าเมื่อเดิน เพราะมีส่วนประกอบของไม้
  • มีความยืดหยุ่นมากกว่าเล็กน้อย ทำให้รู้สึกสบายเท้ากว่าในการยืนเป็นเวลานาน
  • มีเสียงดังกว่าเล็กน้อยเมื่อเดิน โดยเฉพาะถ้าติดตั้งไม่ดีหรือไม่มีวัสดุรองพื้น
  • ต้องระวังเรื่องการติดตั้งระบบทำความร้อนใต้พื้น เพราะอาจทำให้เกิดการยืดหดตัวมากเกิน

ด้านความรู้สึกสัมผัส เมื่อเปรียบเทียบพื้น SPC กับพื้นลามิเนต พบว่าพื้นลามิเนตให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติและอุ่นกว่า แต่พื้น SPC รุ่นคุณภาพสูงก็มีชั้นรองพื้นที่สามารถให้ความสบายใกล้เคียงกันได้

อ่านเพิ่มเติม — พื้น SPC ข้อเสีย/ข้อดี มีอะไรบ้าง ?

ความหลากหลายของลายและสีสัน

ลวดลายและความสวย เป็นปัจจัยหนึ่งในการเลือกระหว่างพื้น SPC กับพื้นลามิเนต

พื้น SPCพื้นลามิเนต
  • มีลายและสีให้เลือกหลากหลาย โดยเฉพาะลายไม้ธรรมชาติ
  • เทคโนโลยีการพิมพ์ดิจิทัลทำให้ลวดลายมีความคมชัดและเหมือนจริง
  • มีลายนูนตามลายไม้ (embossed texture) ที่สมจริง สัมผัสได้ถึงร่องลายไม้
  • มีรุ่นพิเศษที่ลอกเลียนวัสดุธรรมชาติอื่น ๆ เช่น หิน กระเบื้อง
  • มีประวัติการพัฒนาลวดลายมานาน มีความหลากหลายมากกว่า
  • ตัวเลือกของลายไม้มีหลายชนิด ตั้งแต่ไม้คลาสสิคจนถึงไม้ที่มีลายแปลกตา
  • มีข้อได้เปรียบในการเลือกสีที่หลากหลาย ทั้งโทนอ่อนและโทนเข้ม
  • มีทั้งลายไม้แบบมันวาวและแบบด้าน ให้เลือกตามความชอบ

ด้านความหลากหลายของลาย การเปรียบเทียบพื้น SPC กับพื้นลามิเนต แสดงให้เห็นว่าพื้นลามิเนตมีตัวเลือกที่มากกว่าเล็กน้อย แต่พื้น SPC ก็กำลังพัฒนาลวดลายให้มีความหลากหลายมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

เปรียบเทียบด้านการติดตั้ง พื้น SPC กับ พื้นลามิเนต

เลือกซื้อระหว่าง พื้น SPC กับ พื้นลามิเนต ควรพิจารณาที่วิธีการติดตั้ง เพราะส่งผลต่อทั้งค่าใช้จ่ายและความยุ่งยากในการปูพื้น

พื้น SPCพื้นลามิเนต
  • มีระบบล็อคแบบคลิก (click-lock system) ติดตั้งได้ง่ายแบบลอยตัว ไม่ต้องใช้กาว
  • มีความแข็งแรงและทนต่อการบิดงอ ติดตั้งสะดวก ไม่เกิดปัญหาหลุดล็อค
  • สามารถติดตั้งบนพื้นเดิมได้ แม้พื้นเดิมจะไม่เรียบ เพราะมีความแข็งแรงและทนทานสูง
  • ไม่จำเป็นต้องปรับระดับพื้นมาก สามารถทนต่อความไม่เรียบของพื้นได้ระดับหนึ่ง
  • มีความหนาน้อยกว่า (ประมาณ 4-6 มม.) ไม่ต้องตัดประตูหรือปรับความสูงของเฟอร์นิเจอร์มาก
  • มีระบบล็อคแบบคลิกเหมือนกัน แต่ไม่แข็งแรงเท่าพื้น SPC
  • ต้องการพื้นฐานที่เรียบกว่า ไม่งั้นอาจเกิดปัญหาการโก่งงอหรือเสียงดังเวลาเดิน
  • จำเป็นต้องวางแผ่นรองพื้น (underlayment) เพื่อช่วยป้องกันความชื้นและเพิ่มความสบายเท้า
  • ต้องทิ้งระยะห่างจากผนังมากกว่า (ประมาณ 10-15 มม.) เพื่อรองรับการขยายตัวเมื่ออุณหภูมิหรือความชื้นเปลี่ยนแปลง
  • มีความหนามากกว่า (ประมาณ 8-12 มม.) จำเป็นต้องปรับความสูงของประตูหรือเฟอร์นิเจอร์

ทั้งสองประเภทสามารถติดตั้งด้วยตัวเองได้ ถ้ามีทักษะและเครื่องมือพื้นฐาน แต่พื้น SPC มีข้อได้เปรียบในการติดตั้งที่ง่ายและมีความยืดหยุ่นในการทำงานมากกว่า สามารถติดตั้งในพื้นที่ใหญ่ได้โดยไม่ต้องมีแนวรอยต่อมาก ขณะที่พื้นลามิเนตจำเป็นต้องมีแนวรอยต่อเมื่อติดตั้งในพื้นที่ขนาดใหญ่

 

อายุการใช้งานกับการดูแลรักษา พื้น SPC เทียบกับ พื้นลามิเนต

อายุการใช้งานและความง่ายในการดูแลรักษา เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความคุ้มค่าในระยะยาว การเปรียบเทียบ พื้น SPC กับ พื้นลามิเนต ด้านนี้ จะช่วยให้เห็นภาพรวมของค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งานค่ะ

พื้น SPCพื้นลามิเนต
  • มีอายุการใช้งานนาน 20-30 ปี ถ้าได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสม
  • ทำความสะอาดได้ง่ายแค่ใช้ไม้ถูพื้นหมาด ๆ หรือผ้าชุบน้ำบิดหมาด
  • สามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดได้หลายชนิด รวมถึงน้ำยาฆ่าเชื้อโรค โดยไม่ทำให้พื้นเสียหาย
  • ไม่ต้องการการบำรุงรักษาพิเศษ เช่น การลงแวกซ์หรือการขัดเงา
  • ถ้าเกิดความเสียหายเฉพาะจุด สามารถแกะแผ่นที่เสียหายออกและเปลี่ยนใหม่ได้โดยไม่กระทบพื้นที่อื่น
  • มีอายุการใช้งาน 15-25 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพและการดูแลรักษา
  • การทำความสะอาดต้องระวังเรื่องความชื้น ไม่ควรใช้ไม้ถูพื้นเปียก ควรใช้ผ้าหมาด ๆ
  • ต้องระวังในการใช้น้ำยาทำความสะอาด ไม่ควรใช้สารที่มีฤทธิ์รุนแรงหรือมีความเป็นกรด/ด่างสูง
  • ต้องการการดูแลเพิ่มเติมเพื่อรักษาความเงางาม เช่น การใช้น้ำยาทำความสะอาดพิเศษสำหรับพื้นลามิเนต
  • การซ่อมแซมทำได้ยากกว่า เพราะการเปลี่ยนแผ่นที่เสียหาย จำเป็นต้องรื้อพื้นทั้งหมดตั้งแต่จุดที่ใกล้สุดกับผนัง

ในแง่การดูแลรักษา การเปรียบเทียบพื้น SPC กับพื้นลามิเนตแสดงให้เห็นว่า พื้น SPC มีความสะดวกและง่ายกว่า โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงด้านความชื้นหรือการหกของของเหลว

 

ราคาของพื้น SPC กับ พื้นลามิเนต

พื้น SPCพื้นลามิเนต
  • ราคาเริ่มต้น 800-2,500 บาทต่อตารางเมตร ขึ้นอยู่กับคุณภาพและความหนาของชั้นเคลือบผิว
  • รุ่นพรีเมียมที่มีความหนาของชั้นเคลือบผิวสูงและมีเทคโนโลยีพิเศษ ราคาอาจสูงถึง 3,000 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าติดตั้งประมาณ 150-250 บาทต่อตารางเมตร (ถ้าใช้บริการช่างมืออาชีพ)
  • มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่ำ เพราะทนทานและง่ายต่อการทำความสะอาด
  • การลงทุนที่สูงกว่าในช่วงแรก จะเห็นความคุ้มในระยะยาว เพราะอายุการใช้งานที่นานและไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย
  • ราคาเริ่มต้น 450-1,500 บาทต่อตารางเมตร ราคาจับต้องได้กว่า
  • รุ่นคุณภาพสูงที่มีความทนทานขึ้น อาจมีราคาสูงถึง 2,000 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าติดตั้งใกล้เคียงกับพื้น SPC ประมาณ 150-250 บาทต่อตารางเมตร
  • มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับแผ่นรองพื้น (underlayment) ประมาณ 50-100 บาทต่อตารางเมตร
  • มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและซ่อมแซมสูงกว่าในระยะยาว กรณีเกิดความเสียหายจากน้ำหรือความชื้น

เมื่อพิจารณาด้านราคา พื้นลามิเนตมีข้อได้เปรียบด้านต้นทุนเริ่มต้นที่ถูกกว่า ทำให้เหมาะกับผู้ที่มีเงินจำกัดหรือโครงการระยะสั้น ขณะที่พื้น SPC เป็นตัวเลือกที่คุ้มกว่าในระยะยาวสำหรับผู้ที่ต้องการความทนทาน และลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาค่ะ

 

สรุป

การเลือกระหว่าง พื้น SPC กับ พื้นลามิเนต ขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะ เงิน และสภาพแวดล้อมการใช้งานของแต่ละบุคคล ทั้งสองประเภทต่างก็มีข้อดีกับข้อจำกัดแตกต่างกัน

พื้น SPC เหมาะสำหรับ

  • พื้นที่เปียกชื้น เช่น ห้องครัว หรือชั้นใต้ดิน
  • บ้านที่มีเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยง ที่ต้องการพื้นทนทานต่อรอยขีดข่วนและการกระแทก
  • ผู้ที่ต้องการพื้นที่ดูแลรักษาง่ายและมีอายุการใช้งานนาน ๆ
  • พื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึง เพราะไม่ค่อยซีดจางและไม่ขยายตัวเมื่อโดนความร้อน

พื้นลามิเนตเหมาะสำหรับ

  • พื้นที่แห้ง เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ที่ไม่มีความเสี่ยงเรื่องน้ำหรือความชื้นสูง
  • ผู้ที่มีเงินจำกัดแต่ต้องการพื้นที่ที่มีความสวยเหมือนไม้จริง
  • ผู้ที่ต้องการความหลากหลายของลวดลายและสีสัน
  • โครงการระยะสั้นหรือพื้นที่ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้

ตารางสรุปเปรียบเทียบ พื้น SPC กับ พื้นลามิเนต

คุณสมบัติพื้น SPCพื้นลามิเนต
วัสดุแกนกลางStone Plastic CompositeHigh-Density Fiberboard (HDF)
การทนน้ำดีเยี่ยม (100% กันน้ำ)ปานกลาง (ทนน้ำชั่วคราว)
ความทนทานต่อรอยขีดข่วนสูงปานกลาง
ความทนทานต่อแรงกระแทกสูงปานกลาง
ความรู้สึกเมื่อเดินแข็ง เย็นกว่านุ่ม อุ่นกว่า
ความหลากหลายของลายมากมากที่สุด
ความง่ายในการติดตั้งง่ายง่าย
อายุการใช้งาน20-30 ปี15-25 ปี
การดูแลรักษาง่ายต้องระวังเรื่องน้ำ
ราคาเริ่มต้น800-2,500 บาท/ตร.ม.450-1,500 บาท/ตร.ม.
พื้นที่เหมาะสมทุกพื้นที่รวมห้องครัวพื้นที่แห้ง ห้องนอน ห้องนั่งเล่น

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้